เมื่อวันศุกร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 เวลา 10.00 น. นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคเหนือ นายศุภรัชต์ อินทราวุธ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนา สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และคณะอนุกรรมการฯ เดินทางไปติดตามความก้าวหน้าโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายวรพจน์ เพชรนรชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 3 รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 1 นายสัณฐิต พีรานนท์ ผู้อำนวยการกองประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ นายณัฐวุฒิ นากสุก ผู้อำนวยการส่วนวิศวกรรม สำนักงานชลประทานที่ 1 นายจรินทร์ คงศรีเจริญ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ นายเกื้อกูล มานะสัมพันธ์สกุล หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรม โครงการชลประทานเชียงใหม่ นางสาวจันทร์จิรา อักษรณรงค์ ผู้อำนวยการส่วนติดตามและประเมินผล กองประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปติดตามผลการดำเนินงานโครงการปรับปรุงสระเก็บน้ำบ้านสหกรณ์ 1 และอาคารประกอบอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลบ้านสหกรณ์ อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่
ในการนี้ ผู้แทนกรมชลประทาน ได้บรรยายสรุปผลการดำเนินโครงการดังกล่าว ซึ่งโครงการปรับปรุงสระเก็บน้ำบ้านสหกรณ์ 1 และอาคารประกอบอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2562 ตามที่นายอำนวย สิทธิชัย ราษฎรหมู่ที่ 1 ตำบลบ้านสหกรณ์ อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ ขอพระราชทานโครงการขุดลอกอ่างเก็บน้ำพร้อมระบบประปา บริเวณตำบลบ้านสหกรณ์ เพื่อช่วยเหลือราษฎรอำเภอแม่ออน ซึ่งขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคและทำการเกษตร ปัจจุบันกรมชลประทานดำเนินปรับปรุงสระเก็บน้ำบ้านสหกรณ์ 1 ให้มีความจุ 100,000 ลูกบาศก์เมตร พร้อมก่อสร้างอาคารประกอบ สามารถส่งน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคให้แก่ราษฎรบ้านสหกรณ์ 1 จำนวน 227 ครัวเรือน รวม 560 คน และช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรประมาณ 255 ไร่ รวมทั้งเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้แก่พื้นที่ราษฎรในพื้นที่ใกล้เคียงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังได้มีการจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำ จำนวน 1 กลุ่ม เพื่อร่วมกันบริหารจัดการน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป
ช่วงบ่าย องคมนตรี และคณะ ได้เดินทางไปยังโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยโป่งจ้ออันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลสันติสุข อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ ในการนี้ ผู้แทนกรมชลประทาน ได้บรรยายสรุปผลการดำเนินโครงการดังกล่าว ซึ่งโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยโป่งจ้ออันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานพระราชดำริ เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2523 เกี่ยวกับอ่างเก็บน้ำห้วยโป่งจ้อ ซึ่งขณะนั้นกรมชลประทานอยู่ระหว่างการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำดังกล่าว ความว่า "...ควรพิจารณาก่อสร้างให้สามารถเก็บกักน้ำได้อย่างเต็มที่ และเสร็จโดยเร็วที่สุด..." เนื่องจากโครงการเกษตรกรรมจอมทองและพื้นที่ของราษฎรบริเวณใกล้เคียง รวมประมาณ 20,000 ไร่ ขาดแคลนน้ำมาก โดยกรมชลประทานได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2525 เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง มีขนาดความจุ 2.6 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถส่งน้ำช่วยเหลือและส่งเสริมพื้นที่เพาะปลูกในเขตโครงการเกษตรจอมทอง ซึ่งมีพื้นที่ชลประทาน 11,549 ไร่ ราษฎรจำนวน 1,305 ครอบครัว โดยมีผลผลิตทางการเกษตร เช่น ลำไยมีผลผลิตเฉลี่ยจำนวน 700 กิโลกรัมต่อไร่ ข้าวมีผลผลิตเฉลี่ยจำนวน 646 กิโลกรัมต่อไร่ มะม่วงมีผลผลิตเฉลี่ยจำนวน 1,600 กิโลกรัมต่อไร่ และพืชผัก (หลังนา) เช่น พริก ถั่วฝักยาว มะเขือเทศ มันสำปะหลัง เป็นต้น ต่อมาได้พระราชทานพระราชดำริเพิ่มเติม ความว่า "...ให้กรมชลประทานพิจารณาวางโครงการและก่อสร้างอ่างเก็บน้ำในลำน้ำแม่ตื่น เพื่อเก็บกักน้ำแล้วผันน้ำลงไปยังอ่างเก็บน้ำห้วยโป่งจ้อ เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน..." ซึ่งกรมชลประทานได้พิจารณาวางโครงการเป็นฝายทดน้ำ เพื่อที่จะทดระดับน้ำใช้การให้มีระดับสูงพอที่จะสามารถผันน้ำไปยังอ่างเก็บน้ำห้วยโป่งจ้อฯ โดยประโยชน์ที่เกิดขึ้นสามารถใช้เป็นอาคารทดน้ำจากลำน้ำแม่ตื่น แล้วผันน้ำข้ามลุ่มนํ้าไปสู่อ่างเก็บน้ำห้วยโป่งจ้อฯ ซึ่งในแต่ละปีมีปริมาณน้ำต้นทุนน้อยมาก ไม่เพียงพอสำหรับพื้นที่ชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยโป่งจ้อ ประมาณ 11,549 ไร่ และสำหรับการอุปโภคบริโภคของราษฎร ประมาณ 1,305 ครัวเรือน และใช้เลี้ยงสัตว์ของราษฎรบ้านแม่ตื่น ปัจจุบันพื้นที่การเกษตรเป็นแหล่งปลูกลำไย และมะม่วงคุณภาพดี สร้างผลผลิตและรายได้ให้แก่เกษตรในพื้นที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และในปี 2564 ได้มีการจัดตั้งกลุ่มบริหารการใช้น้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำโป่งจ้อ ตำบลสันติสุข อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ ขึ้น