รมว.กษ. พบปะชาวไร่ใต้ สร้างความมั่นใจโครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองดอกบัว ลดปัญหาด้านน้ำทุกมิติ

 

 
image-1
IMAGE-2
 
 
 
 
 
 
 
 

วันที่ 8 ต.ค. 64 ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการบรรเทาอุทกภัย จังหวัดอุบลราชธานี โดยมี นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน นายชูชาติ รักจิตร รองอธิบดีกรมชลประทาน นายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน นายจักริน ประเสริฐสุวรรณ
ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 7 และผู้เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับและบรรยายสรุป ณ หอประชุมโรงเรียนไร่ใต้ประชาคม ตำบลไร่ใต้ อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี

นายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ในปี 2562 จังหวัดอุบลราชธานี ประสบปัญหาอุทกภัยจากอิทธิพลของพายุโพดุลและพายุคาจิกิ ทำให้ระดับน้ำในลำน้ำมูลเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่เกษตรกรรมและที่อยู่อาศัยของชุมชนในหลายอำเภอ ประกอบกับในรอบหลายปีที่ผ่านมา เกิดน้ำท่วมบริเวณสองฝั่งแม่น้ำชีและแม่น้ำมูล ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ อำเภอเมืองอุบลราชธานี อำเภอวารินชำราบ และ อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี กรมชลประทาน ได้ดำเนินการศึกษาแนวทางการแก้ไขและบรรเทาปัญหาอุทกภัยอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ โดยพิจารณาถึงสภาพพื้นที่และระบบลำน้ำที่มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับพื้นที่ลุ่มน้ำข้างเคียงและระบบลุ่มน้ำหลัก โดยที่ผ่านมา กรมชลประทาน ได้เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน มีการจัดประชุมปฐมนิเทศโครงการฯ การประชุมกลุ่มย่อย 2 ครั้ง การประชุมปัจฉิมนิเทศโครงการ และกิจกรรมสื่อสัญจร เพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนและทุกภาคส่วน และร่วมกันบูรณาการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งในพื้นที่ให้ครอบคลุมทุกด้าน

สำหรับโครงการศึกษาความเหมาะสมเพื่อบรรเทาอุทกภัย จังหวัดอุบลราชธานี มีขอบเขตการศึกษาคลอบคลุมพื้นที่ 5 จังหวัด ในลุ่มน้ำชีตอนล่างและลุ่มน้ำมูลตอนล่าง ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ ยโสธร อำนาจเจริญ และร้อยเอ็ด โดยการก่อสร้างคลองผันน้ำเลี่ยงเมืองอุบลราชธานี ซึ่งมีจุดรับน้ำ 2 ทาง คือ จุดรับน้ำที่ 1 จากห้วยขะยุง (เหนือเขื่อนหัวนา) และจุดรับน้ำที่ 2 จากแม่น้ำมูล (ท้ายเขื่อนหัวนา) จากนั้นจะระบายน้ำกลับลงสู่แม่น้ำมูลผ่านทางห้วยกว้าง ท้ายแก่งสะพือ รวมระยะทางคลองผันน้ำกว่า 96 กิโลเมตร สามารถระบายน้ำได้รวมกันประมาณ 1,200 ลบ.ม./วินาที มีพื้นที่รับประโยชน์ประมาณ 55,000 ไร่

ปัจจุบันโครงการศึกษาฯ อยู่ในขั้นตอนของการออกแบบรายละเอียด และดำเนินการชดเชยทรัพย์สินตามแนวคลองส่งน้ำ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 1-2 ปี และจะใช้ระยะเวลาในการดำเนินการก่อสร้างโครงการฯ ประมาณ 7 ปี หากโครงการฯ แล้วเสร็จทั้งหมด จะช่วยบรรเทาและลดผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งในพื้นที่ลุ่มน้ำชีตอนล่างและลุ่มน้ำมูลตอนล่างได้ในระยะยาว

ด้าน ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้ กรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับคำแนะนำและข้อเสนอแนะจากประชาชนในพื้นที่ไปทวบทวนและปรับปรุงแนวทางการดำเนินโครงการฯ เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากโครงการดังกล่าวอย่างแท้จริง