วันนี้ (6 กันยายน 2568) ที่อาคารเอนกประสงค์ เทศบาลตำบลนาอ้อ อำเภอเมือง จังหวัดเลย นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำจังหวัดเลย ติดตามความคืบหน้าโครงการชลประทานในพื้นที่ รวมทั้งรับฟังรายงานสถานการณ์อุทกภัยและการช่วยเหลือ พร้อมพบปะเกษตรกร รับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะ รวมถึงมอบปัจจัยการผลิตด้านการเกษตร และเยี่ยมชมนิทรรศการของหน่วยงานในสังกัด โดยมี นายสุริยพล นุชอนงค์ อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วย นายภัคภาค คุณะเกษม ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 5 นายทรงพล สวยสม ผู้อำนวยการสำนักเครื่องจักรกล นายสุนทร คำศรีเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 5 นายสิทธิพร พฤฒิพิบูลธรรม เลขานุการกรม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้อง
.
จังหวัดเลยมีแหล่งน้ำที่สำคัญ ได้แก่ แม่น้ำเลย แม่น้ำพอง และห้วยน้ำหมาน ช่วงฤดูฝนมีปริมาณน้ำมาก แต่สามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ในปริมาณที่ค่อนข้างน้อย ส่งผลให้ขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง กรมชลประทาน จึงได้เร่งรัดโครงการพัฒนาแหล่งน้ำสำคัญในพื้นที่ อาทิ โครงการประตูระบายน้ำศรีสองรัก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่จะเพิ่มพื้นที่ชลประทาน 59,100 ไร่ รวมถึงผลักดันโครงการก่อสร้างฝายยางบ้านท่ามะนาว โดยมีแผนก่อสร้าง 3 ปี (2568 – 2570) ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จจะช่วยเพิ่มศักยภาพการกักเก็บและส่งน้ำ เพื่อการเกษตรฤดูฝน 2,500 ไร่ และฤดูแล้ง 1,700 ไร่ มีเกษตรกรได้รับประโยชน์โดยตรงจำนวน 827 ครัวเรือน
.
สำหรับโครงการพัฒนาแหล่งน้ำในลุ่มน้ำเลย แม่น้ำเลย ที่ดำเนินการแล้วเสร็จ มีอ่างเก็บน้ำ จำนวน 59 โครงการ ปริมาณเก็บกัก 85.42 ล้าน ลบ.ม. ฝายทดน้ำ จำนวน 65 โครงการ สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า จำนวน 27 โครงการ มีพื้นที่ชลประทาน 57,171 ไร่ และพื้นที่รับประโยชน์ 140,948 ไร่ ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กำชับให้กรมชลประทานเร่งพิจารณาโครงการก่อสร้างฝายยางบ้านปากหมาก ซึ่งจะช่วยให้พื้นที่กว่า 2,000 ไร่ได้รับประโยชน์ รวมถึงการปรับปรุงประตูระบายน้ำศรีสองรัก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขงได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
.
จากอิทธิพลของพายุหนองฟ้า ช่วงวันที่ 30 สิงหาคม - 2 กันยายน 2568 ทำให้เกิดฝนตกหนัก ส่งผลให้หลายพื้นที่ของจังหวัดเลยประสบปัญหาน้ำท่วมและเกิดความเสียหายต่อการเกษตร กรมชลประทาน ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ โดยได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือในทุกด้าน ทั้งการจัดส่งเครื่องจักร เครื่องมือ เข้าไปสนับสนุนการระบายน้ำ และฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายอย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดทำมาตรการป้องกันและแผนฟื้นฟู เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนต่อไป