กรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักบริเวณพื้นที่ลุ่มน้ำเหนือและท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและลำน้ำสาขามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ในช่วง 1-2 วันข้างหน้า จะมีฝนตกเพิ่ม ซึ่งจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้นตามลำดับนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 06.00 น. ของวันนี้ (2 พ.ย.68) ที่สถานีวัดน้ำท่า C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำตรวจวัดได้ 2,368 ลบ.ม./วินาที แนวโน้มเพิ่มขึ้น ในขณะที่สถานี ct.25 แม่น้ำสะแกกรัง จ.อุทัยธานี มีปริมาณน้ำวัดได้ 125 ลบ.ม./วินาที ก่อนจะไหลมาสมทบบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ที่คงอัตราการระบาย 2,000 ลบ.ม./วิ
ทั้งนี้ เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำสอดคล้องกับสถานการณ์ฝนปัจจุบันและการคาดการณ์ กรมชลประทาน ได้ทำการหน่วงน้ำไว้หน้าเขื่อนเจ้าพระยา โดยไม่ให้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ด้านเหนือเขื่อน พร้อมรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งตามศักยภาพของคลอง โดยจะควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านสถานี C.13 เขื่อนเจ้าพระยา ให้อยู่ในอัตราไม่เกิน 2,200 ลบ.ม./วินาที เพื่อลดผลกระทบด้านท้ายน้ำ ซึ่งหากระดับน้ำทางตอนบนเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป
