สำหรับกรณีที่ชาวบ้านมีข้อสงสัยว่า ผู้รับจ้างละทิ้งงานไม่สามารถดำเนินงานได้ต่อเนื่อง เกรงว่าจะทำให้ชาวบ้านเสียประโยชน์จากโครงการ ที่คาดว่าจะได้รับการใช้น้ำในปี พ.ศ. 2564 นั้น กรมชลประทานขอชี้แจงว่า กรมชลประทานได้ว่าจ้างบริษัท สยามพันธุ์วัฒนา จำกัด (มหาชน) ดำเนินการก่อสร้างเขื่อนหัวงานและอาคารประกอบ พร้อมส่วนประกอบอื่น และว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ดำเนินการควบคุมงานก่อสร้างทั้งหมด ( FULL SUPERVISION ) โดยเริ่มนับอายุสัญญาตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2560 และสิ้นสุดอายุสัญญาวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 อายุสัญญา 1,080 วัน วงเงินค่าก่อสร้าง 1,650,000,000 บาท ปัจจุบันได้ผลงานความก้าวหน้าสะสมร้อยละ 20.297 จากแผนงานที่วางไว้ร้อยละ 79.737 ล่าช้ากว่าแผนงานร้อยละ 59.440 ซึ่งกรมชลประทานได้ออกหนังสือเร่งรัดให้ผู้รับจ้างปฏิบัติงานตามเงื่อนไขของสัญญาอย่างเคร่งครัด และปฏิบัติงานให้แล้วเสร็จภายในกำหนดอายุสัญญา ส่วนกรณีที่มีการกล่าวว่า ชาวบ้านที่เข้ามาใช้แรงงาน ไม่ได้รับค่าจ้างแรงงานเป็นจำนวนมาก กรมชลประทานขอยืนยันว่า ได้ดำเนินการเบิกจ่ายค่างานก่อสร้างให้ผู้รับจ้าง ตามปริมาณงานที่ทำได้จริงแล้วทั้งหมด ไม่มีค่างานค้างจ่าย แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม กรมชลประทาน กำลังพิจารณาดำเนินการแก้ไขปัญหาด้วยความรอบคอบ ตามระเบียบ เงื่อนไข และกฎเกณฑ์ในสัญญาให้ถึงที่สุด เพื่อให้งานบรรลุตามวัตถุประสงค์ แล้วเสร็จตามกำหนดเวลาเพื่อให้ชาวบ้านในพื้นที่ และพื้นที่ใกล้เคียงได้ใช้ประโยชน์จากโครงการฯ ให้เร็วที่สุด